Coinbase ผนึก American Express เปิดตัวบัตรเครดิตคริปโต

ในโลกของคริปโตเคอร์เรนซีที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด หนึ่งในความต้องการหลักของนักลงทุนและผู้ใช้งานคือการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนยุ่งยากในการแปลงคริปโต เป็นเงิน Fiat (เช่น ดอลลาร์, บาท) ก่อนการใช้จ่าย นี่คือจุดที่บัตรคริปโต ประเภทต่างๆ ก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญ และเป็นเหตุผลที่ทำให้การเปิดตัว Coinbase One Card เป็นบัตรเครดิตใบแรกของ Coinbase ซึ่งเป็น CEX ที่ใหญ่ที่สุดของอเมริกาโดยความร่วมมือกับ American Express กลายเป็นข่าวใหญ่ที่น่าจับตามอง
จุดเด่นของ Coinbase One Card
- มีพันธมิตรที่แข็งแกร่ง (American Express):
การจับมือกับ American Express (Amex) ทำให้ Coinbase One Card ได้รับประโยชน์จากเครือข่ายที่กว้างขวางและความน่าเชื่อถือระดับโลกของ Amex ช่วยให้บัตรได้รับการยอมรับในวงกว้าง ณ จุดรับบัตรต่างๆ ทั่วโลก เพิ่มความสะดวกในการใช้งานอย่างมาก - ได้รับ Bitcoin คืนสูงสุด 4%:
- ทุกครั้งที่คุณใช้จ่ายผ่าน Coinbase One Card จะได้รับ Bitcoin คืนสูงสุดถึง 4% เข้าสู่ Coinbase Wallet อัตโนมัติ
- ยิ่งถือคริปโต ในบัญชี Coinbase มากเท่าไหร่ อัตราการได้รับ Bitcoin คืนก็จะยิ่งสูงขึ้น เป็นแรงจูงใจให้คุณเก็บคริปโต ไว้กับ Coinbase เพื่อรับผลประโยชน์สูงสุด - ชำระบิลด้วยคริปโต ที่อยู่ใน Coinbase:
- บัตร Coinbase One Card เป็นบัตรเครดิต ดังนั้นคุณจะมี "ยอดค้างชำระ" เหมือนบัตรเครดิตทั่วไป
- ความพิเศษคือ คุณสามารถเลือก ชำระยอดค้างชำระนั้นด้วยคริปโตเคอร์เรนซีที่คุณมีอยู่ในบัญชี Coinbase ของคุณได้โดยตรง (เช่น ใช้ Bitcoin, Ethereum, หรือ Stablecoin ที่คุณถืออยู่)
- นี่หมายความว่า "เงินใน Coinbase" (คริปโต ของคุณ) มีบทบาทโดยตรงในการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายบัตรเครดิต คุณไม่จำเป็นต้องแปลงคริปโต เป็น Fiat แล้วโอนเข้าธนาคารเพื่อมาชำระบิลให้ยุ่งยากอีกต่อไป - ผสานรวมกับสิทธิประโยชน์ Coinbase One Membership:
การใช้บัตร Coinbase One Card นั้น คุณจะต้องเป็นสมาชิก Coinbase One ซึ่งเปิดประตูสู่สิทธิประโยชน์อื่นๆ ที่เชื่อมโยงกับการถือสินทรัพย์และการทำธุรกรรมใน Coinbase ของคุณ:
- Zero trading fees: ลดค่าธรรมเนียมการซื้อขายคริปโต บนแพลตฟอร์ม Coinbase ในยอดที่กำหนด
- Boosted USDC rewards: ได้รับ APY ที่สูงขึ้นจากการถือ USDC ในบัญชี Coinbase
- More staking rewards: ได้รับรางวัล Staking ที่สูงขึ้นสำหรับคริปโต ที่คุณ Stake ใน Coinbase
- Transaction credits on Base: ได้เครดิตค่า Gas สำหรับการทำธุรกรรมบน Base (Layer 2 ของ Coinbase)
สิทธิประโยชน์เหล่านี้เสริมให้การ "เอาเงินเข้า Coinbase" (การถือสินทรัพย์ดิจิทัลไว้ที่ Coinbase) และการใช้งานแพลตฟอร์มนี้ คุ้มค่ายิ่งขึ้น ในทุกมิติ
ประเทศไหนใช้ได้บ้าง?
ข้อมูลเบื้องต้นระบุว่า Coinbase One Card จะเปิดตัวในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี 2025 โดยจะจำกัดสำหรับสมาชิก Coinbase One ในสหรัฐอเมริกาที่อยู่ในรายชื่อรอ (waitlist) ก่อน และจะขยายวงกว้างขึ้นในภายหลัง
ดังนั้น ณ วันนี้ (26 มิถุนายน 2568) บัตรนี้ยังไม่มีให้บริการในประเทศไทย และเราต้องจับตาดูต่อไปว่า Coinbase มีแผนจะขยายการให้บริการไปยังภูมิภาคอื่นๆ รวมถึงประเทศไทยเมื่อไหร่
สรุป
การเปิดตัว Coinbase One Card ไม่ใช่แค่การเพิ่มตัวเลือกในตลาดบัตรคริปโตฯแต่เป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าสินทรัพย์ดิจิทัลกำลังก้าวเข้าสู่กระแสหลักของการเงินอย่างเต็มตัว การนำเสนอความสามารถแบบบัตรเครดิตควบคู่ไปกับการได้รางวัลเป็น Bitcoin และการผสานรวมเข้ากับระบบนิเวศของ Coinbase One Membership ซึ่งทำงานบนโครงสร้าง Blockchain ผ่าน Centralized Exchange (CEX) อย่าง Coinbase ทำให้บัตรนี้เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับชาวคริปโต ที่ต้องการใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ดิจิทัลของตนได้อย่างยืดหยุ่นและคุ้มค่าที่สุด รวมถึงอำนวยความสะดวกในการทำ Transaction ต่างๆ
สำหรับพวกเราที่อยู่ในโลกคริปโต มานาน นี่คืออีกหนึ่งก้าวที่น่าตื่นเต้นที่พิสูจน์ให้เห็นว่าการนำคริปโต มาใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันนั้นกำลังเป็นความจริงขึ้นเรื่อยๆ
Comments ()