Coinbase ผนึก American Express เปิดตัวบัตรเครดิตคริปโต

Coinbase ผนึก American Express เปิดตัวบัตรเครดิตคริปโต
Coinbase ผนึก American Express เปิดตัวบัตรเครดิตคริปโต

ในโลกของคริปโตเคอร์เรนซีที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด หนึ่งในความต้องการหลักของนักลงทุนและผู้ใช้งานคือการนำสินทรัพย์ดิจิทัลมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนยุ่งยากในการแปลงคริปโต เป็นเงิน Fiat (เช่น ดอลลาร์, บาท) ก่อนการใช้จ่าย นี่คือจุดที่บัตรคริปโต ประเภทต่างๆ ก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญ และเป็นเหตุผลที่ทำให้การเปิดตัว Coinbase One Card เป็นบัตรเครดิตใบแรกของ Coinbase ซึ่งเป็น CEX ที่ใหญ่ที่สุดของอเมริกาโดยความร่วมมือกับ American Express กลายเป็นข่าวใหญ่ที่น่าจับตามอง


จุดเด่นของ Coinbase One Card

  1. มีพันธมิตรที่แข็งแกร่ง (American Express):
    การจับมือกับ American Express (Amex) ทำให้ Coinbase One Card ได้รับประโยชน์จากเครือข่ายที่กว้างขวางและความน่าเชื่อถือระดับโลกของ Amex ช่วยให้บัตรได้รับการยอมรับในวงกว้าง ณ จุดรับบัตรต่างๆ ทั่วโลก เพิ่มความสะดวกในการใช้งานอย่างมาก
  2. ได้รับ Bitcoin คืนสูงสุด 4%:
    - ทุกครั้งที่คุณใช้จ่ายผ่าน Coinbase One Card จะได้รับ Bitcoin คืนสูงสุดถึง 4% เข้าสู่ Coinbase Wallet อัตโนมัติ
    - ยิ่งถือคริปโต ในบัญชี Coinbase มากเท่าไหร่ อัตราการได้รับ Bitcoin คืนก็จะยิ่งสูงขึ้น เป็นแรงจูงใจให้คุณเก็บคริปโต ไว้กับ Coinbase เพื่อรับผลประโยชน์สูงสุด
  3. ชำระบิลด้วยคริปโต ที่อยู่ใน Coinbase:
    - บัตร Coinbase One Card เป็นบัตรเครดิต ดังนั้นคุณจะมี "ยอดค้างชำระ" เหมือนบัตรเครดิตทั่วไป
    - ความพิเศษคือ คุณสามารถเลือก ชำระยอดค้างชำระนั้นด้วยคริปโตเคอร์เรนซีที่คุณมีอยู่ในบัญชี Coinbase ของคุณได้โดยตรง (เช่น ใช้ Bitcoin, Ethereum, หรือ Stablecoin ที่คุณถืออยู่)
    - นี่หมายความว่า "เงินใน Coinbase" (คริปโต ของคุณ) มีบทบาทโดยตรงในการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายบัตรเครดิต คุณไม่จำเป็นต้องแปลงคริปโต เป็น Fiat แล้วโอนเข้าธนาคารเพื่อมาชำระบิลให้ยุ่งยากอีกต่อไป
  4. ผสานรวมกับสิทธิประโยชน์ Coinbase One Membership:
    การใช้บัตร Coinbase One Card นั้น คุณจะต้องเป็นสมาชิก Coinbase One ซึ่งเปิดประตูสู่สิทธิประโยชน์อื่นๆ ที่เชื่อมโยงกับการถือสินทรัพย์และการทำธุรกรรมใน Coinbase ของคุณ:
    - Zero trading fees: ลดค่าธรรมเนียมการซื้อขายคริปโต บนแพลตฟอร์ม Coinbase ในยอดที่กำหนด
    - Boosted USDC rewards: ได้รับ APY ที่สูงขึ้นจากการถือ USDC ในบัญชี Coinbase
    - More staking rewards: ได้รับรางวัล Staking ที่สูงขึ้นสำหรับคริปโต ที่คุณ Stake ใน Coinbase
    - Transaction credits on Base: ได้เครดิตค่า Gas สำหรับการทำธุรกรรมบน Base (Layer 2 ของ Coinbase)
    สิทธิประโยชน์เหล่านี้เสริมให้การ "เอาเงินเข้า Coinbase" (การถือสินทรัพย์ดิจิทัลไว้ที่ Coinbase) และการใช้งานแพลตฟอร์มนี้ คุ้มค่ายิ่งขึ้น ในทุกมิติ

ประเทศไหนใช้ได้บ้าง?

ข้อมูลเบื้องต้นระบุว่า Coinbase One Card จะเปิดตัวในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี 2025 โดยจะจำกัดสำหรับสมาชิก Coinbase One ในสหรัฐอเมริกาที่อยู่ในรายชื่อรอ (waitlist) ก่อน และจะขยายวงกว้างขึ้นในภายหลัง

ดังนั้น ณ วันนี้ (26 มิถุนายน 2568) บัตรนี้ยังไม่มีให้บริการในประเทศไทย และเราต้องจับตาดูต่อไปว่า Coinbase มีแผนจะขยายการให้บริการไปยังภูมิภาคอื่นๆ รวมถึงประเทศไทยเมื่อไหร่


สรุป

การเปิดตัว Coinbase One Card ไม่ใช่แค่การเพิ่มตัวเลือกในตลาดบัตรคริปโตฯแต่เป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าสินทรัพย์ดิจิทัลกำลังก้าวเข้าสู่กระแสหลักของการเงินอย่างเต็มตัว การนำเสนอความสามารถแบบบัตรเครดิตควบคู่ไปกับการได้รางวัลเป็น Bitcoin และการผสานรวมเข้ากับระบบนิเวศของ Coinbase One Membership ซึ่งทำงานบนโครงสร้าง Blockchain ผ่าน Centralized Exchange (CEX) อย่าง Coinbase ทำให้บัตรนี้เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับชาวคริปโต ที่ต้องการใช้ประโยชน์จากสินทรัพย์ดิจิทัลของตนได้อย่างยืดหยุ่นและคุ้มค่าที่สุด รวมถึงอำนวยความสะดวกในการทำ Transaction ต่างๆ

สำหรับพวกเราที่อยู่ในโลกคริปโต มานาน นี่คืออีกหนึ่งก้าวที่น่าตื่นเต้นที่พิสูจน์ให้เห็นว่าการนำคริปโต มาใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันนั้นกำลังเป็นความจริงขึ้นเรื่อยๆ