ฝันที่ไม่เป็นจริงของ 'Golden Visa UAE' สู่บทเรียนเส้นทางของ 'Crypto Migration'

ฝันที่ไม่เป็นจริงของ 'Golden Visa UAE' สู่บทเรียนเส้นทางของ 'Crypto Migration'
ฝันที่ไม่เป็นจริงของ 'Golden Visa UAE' สู่บทเรียนเส้นทางของ 'Crypto Migration'

ความฝันของ 'วีซ่าคริปโต' ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ดูเหมือนจะยังไม่เป็นจริงโดยตรง เมื่อข้อเสนอจาก The Open Network (TON) ที่ระบุว่าการ Stake เหรียญ TON มูลค่า 100,000 ดอลลาร์เป็นเวลา 3 ปี พร้อมค่าธรรมเนียม จะนำไปสู่การได้ Golden Visa ถูกปฏิเสธอย่างชัดเจนจากทางการ UAE ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคม 2568 เหตุการณ์นี้สร้างความตื่นเต้นและตามมาด้วยความเข้าใจผิดในหมู่ Crypto Nomad และนักลงทุนอย่างมาก

แม้ว่าเหตุการณ์ของ TON จะตอกย้ำถึงความจำเป็นในการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างรอบคอบ แต่ก็ไม่ได้ลดทอนความมุ่งมั่นของ UAE ในการก้าวขึ้นเป็น ผู้นำด้านสินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยี Web3 บทความนี้จะเจาะลึกว่า แม้จะไม่มี 'วีซ่าคริปโตโดยตรง' แต่ UAE ก็ยังคงเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักลงทุนและผู้เชี่ยวชาญ Web3 ด้วยนโยบายที่เอื้ออำนวยและโอกาสที่หลากหลายได้อย่างไร


ความเข้าใจผิดที่เกิดขึ้น: ข้อเสนอจาก TON สู่ความสับสนของ Golden Visa

ในโลกของคริปโตเคอร์เรนซีที่เต็มไปด้วยนวัตกรรมและความเคลื่อนไหวรวดเร็ว การประกาศจากแพลตฟอร์มอย่าง TON ย่อมดึงดูดความสนใจได้ไม่ยาก การนำเสนอแนวคิดที่ว่าการลงทุนในคริปโตสามารถนำไปสู่การได้รับสิทธิ์พำนักถาวรในประเทศที่น่าสนใจอย่าง UAE ดูจะเป็นก้าวสำคัญในการเชื่อมโลกของสินทรัพย์ดิจิทัลเข้ากับการย้ายถิ่นฐานระหว่างประเทศ

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจคือ Golden Visa ของ UAE นั้นมีข้อกำหนดและเงื่อนไขที่ชัดเจนและเข้มงวด โดยหลักแล้วจะเกี่ยวข้องกับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ การจัดตั้งธุรกิจ หรือการลงทุนทางการเงินในประเทศตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ การประกาศของ TON ที่ระบุถึงการ Stake เหรียญเป็นเกณฑ์การพิจารณานั้น ไม่สอดคล้องกับระเบียบปฏิบัติอย่างเป็นทางการของ UAE ซึ่งยังคงยึดหลักเกณฑ์การลงทุนในสินทรัพย์ที่มีอยู่จริงและเป็นไปตามข้อกำหนดทางกฎหมาย

Golden Visa UAE: ข้อกำหนดที่แท้จริง

สำหรับผู้ที่ยังคงสนใจ Golden Visa ของ UAE อย่างแท้จริง ควรศึกษาข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ โดยทั่วไปแล้ว คุณสมบัติหลักจะเกี่ยวข้องกับการลงทุนในด้านต่างๆ เช่น:

  • การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์: โดยการซื้ออสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่าตามที่กำหนด
  • การลงทุนในธุรกิจ: โดยการจัดตั้งบริษัท หรือลงทุนในธุรกิจที่มีอยู่
  • ผู้ที่มีความสามารถพิเศษ: สำหรับผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่างๆ เช่น วิทยาศาสตร์ การแพทย์ ศิลปะ วัฒนธรรม หรือนักศึกษาที่มีผลการเรียนดีเยี่ยม

แม้ว่าอนาคตของคริปโตเคอร์เรนซีจะสดใสและกำลังเข้ามามีบทบาทในหลายภาคส่วน แต่ในปัจจุบัน การย้ายถิ่นฐานและการได้รับสิทธิ์พำนักถาวรผ่านโครงการอย่าง Golden Visa ยังคงอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายที่ชัดเจนและมักจะอิงกับการลงทุนในรูปแบบดั้งเดิมมากกว่าสินทรัพย์ดิจิทัลโดยตรง

เหตุการณ์นี้ไม่ได้บั่นทอนความมุ่งมั่นของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในการก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านสินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยี Web3 แต่กลับเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการทำความเข้าใจนโยบายและเส้นทางที่แท้จริง วันนี้เราจะมาเจาะลึกว่า แม้จะไม่มี
'Golden Visa' โดยตรง แต่ UAE ก็ยังคงเป็นแม่เหล็กดึงดูดนักลงทุนและผู้เชี่ยวชาญ Web3 ด้วยนโยบายที่เอื้ออำนวยและโอกาสที่หลากหลายได้อย่างไร

1. ทำความเข้าใจใหม่ Golden Visa ของ UAE ข้อกำหนดเดิม แต่ "จิตวิญญาณ Web3" ที่กำลังเติบโต

  • Golden Visa ของ UAE ยังคงเน้นการลงทุนแบบดั้งเดิม: ยืนยันว่า Golden Visa 10 ปีของ UAE ยังคงต้องเป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน เช่น การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (มูลค่า 2 ล้าน AED ขึ้นไป) การจัดตั้งธุรกิจที่สร้างงาน หรือสำหรับบุคคลที่มีความสามารถพิเศษ (นักวิทยาศาสตร์ ผู้ประกอบการ แพทย์ ศิลปิน นักเรียนดีเด่น) โดยไม่มีการกล่าวถึงการลงทุนในคริปโตโดยตรงเพื่อขอวีซ่าประเภทนี้
  • แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่เป็นมิตรกับคริปโต: อธิบายว่าแม้จะไม่มีช่องทางตรง แต่การที่ UAE เป็นประเทศที่เปิดกว้างและมีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อธุรกิจคริปโต ทำให้ผู้ที่มีความมั่งคั่งจากคริปโตสามารถนำเงินทุนมาลงทุนในรูปแบบที่เข้าเกณฑ์ Golden Visa แบบดั้งเดิมได้
  • "จิตวิญญาณ Web3" ในโครงสร้างเศรษฐกิจ: ชี้ให้เห็นว่าแม้ข้อกำหนดวีซ่าจะยังคงเดิม แต่ภาครัฐและภาคเอกชนของ UAE มีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งที่จะนำเทคโนโลยีบล็อกเชนและ Web3 มาบูรณาการในระบบเศรษฐกิจ

2. UAE กับการก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางคริปโต: นโยบายและโครงการที่จับต้องได้

  • กรอบการกำกับดูแลที่ชัดเจนและก้าวหน้า:
    • VARA (Virtual Assets Regulatory Authority) ในดูไบ: เป็นหน่วยงานกำกับดูแลสินทรัพย์เสมือนจริงที่ออกใบอนุญาตและกำหนดกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนสำหรับธุรกิจคริปโต เช่น กระดานแลกเปลี่ยน, บริการรับฝากสินทรัพย์ (Custody), โบรกเกอร์
    • ADGM (Abu Dhabi Global Market) และ FSRA: มีกรอบการออกใบอนุญาตคริปโตที่ครอบคลุมและมุ่งเน้นการดึงดูดสถาบันการเงิน รวมถึงกองทุนสนับสนุน Web3 มูลค่ากว่า 2 พันล้านดอลลาร์
    • SCA (Securities and Commodities Authority): กำกับดูแลกิจกรรมสินทรัพย์เสมือนจริงในพื้นที่อื่นๆ ของ UAE (นอกเหนือจากดูไบ) ด้วยกรอบการทำงานของตนเอง
    • RAK Digital Assets Oasis (RAK DAO): เขตปลอดอากรแห่งแรกของโลกที่เน้นเฉพาะบริษัทสินทรัพย์ดิจิทัลและ Web3 โดยเฉพาะ
  • นโยบายภาษีที่เป็นมิตร: UAE ไม่มีภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีกำไรจากทุน (Capital Gains Tax) สำหรับบุคคล ซึ่งเป็นจุดดึงดูดสำคัญสำหรับนักลงทุนคริปโต
  • วิสัยทัศน์และการสนับสนุนจากภาครัฐ:
    • กลยุทธ์ Dubai Metaverse Strategy: ตั้งเป้าที่จะเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและสร้างงานเสมือนจริง
    • การรวมคริปโตเข้ากับการทำธุรกรรมจริง: เช่น สายการบิน Emirates กำลังสำรวจการใช้คริปโตเป็นวิธีการชำระเงิน, กรมที่ดินดูไบร่วมมือกับ Crypto.com ในการทำธุรกรรมอสังหาริมทรัพย์แบบดิจิทัล
    • โครงการ Stablecoin ที่ตรึงกับสกุลเงินดีร์แฮม: แสดงความมุ่งมั่นในการสร้างความมั่นคงในระบบนิเวศคริปโต
  • โครงสร้างพื้นฐานและระบบนิเวศที่รองรับ: การมีธนาคารที่เปิดรับธุรกิจ Web3, พื้นที่ทำงานร่วมกัน (Co-working spaces), ศูนย์บ่มเพาะ (Accelerators) และบริษัท Web3 ที่จดทะเบียนกว่า 3,000 แห่ง ทำให้เป็นสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเติบโต (สร้าง Ecosystem Owned Liquidity ในวงกว้าง)

3. โอกาสการย้ายถิ่นฐานสำหรับผู้เชี่ยวชาญ Web3: มากกว่าแค่ Golden Visa

  • "Web3 Founder Golden Visa" (วีซ่าสำหรับผู้ก่อตั้ง Web3): แม้จะไม่มีการ Stake TON โดยตรง แต่ UAE ก็มีวีซ่า Golden Visa ที่ออกแบบมาสำหรับผู้ก่อตั้งธุรกิจและผู้ประกอบการในสาขาเทคโนโลยีล้ำสมัย รวมถึง Web3 และ AI ซึ่งเป็นวีซ่า 10 ปีที่ต่ออายุได้ โดยไม่จำเป็นต้องมีผู้สนับสนุนท้องถิ่น และครอบคลุมคู่สมรสและบุตร
  • วีซ่าผู้พำนักทางไกล (Remote Work Visa): UAE เป็นหนึ่งในประเทศแรกๆ ที่นำเสนอวีซ่าสำหรับผู้ที่ทำงานจากระยะไกล (Digital Nomads) ซึ่งช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญด้าน Web3 สามารถพำนักอาศัยและทำงานใน UAE ได้อย่างถูกกฎหมาย แม้จะยังคงทำงานให้กับบริษัทต่างชาติ
  • การขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจคริปโต: สำหรับผู้ที่ต้องการจัดตั้งบริษัทหรือให้บริการด้านคริปโตใน UAE การได้รับใบอนุญาตจาก VARA, ADGM หรือ SCA สามารถนำไปสู่สิทธิ์การพำนักสำหรับผู้บริหารและพนักงานได้
  • การดึงดูด "เศรษฐีคริปโต" และผู้มีความสามารถ: ด้วยนโยบายที่ชัดเจนและสิทธิประโยชน์ทางภาษี ทำให้ UAE กลายเป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้นๆ ของเศรษฐีคริปโตและผู้มีความสามารถด้าน Web3 ที่กำลังมองหาฐานที่มั่นคงสำหรับชีวิตและธุรกิจ

4. อนาคตของการย้ายถิ่นฐาน Web3: UAE คือผู้นำที่แท้จริง?

  • จาก "Digital Nomad" สู่ "Web3 Resident": UAE กำลังเปลี่ยนภาพลักษณ์จากการเป็นเพียงจุดแวะพักสำหรับดิจิทัลโนแมด ให้กลายเป็นบ้านที่มั่นคงสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างและเติบโตในโลก Web3
  • แรงกระเพื่อมต่อทั่วโลก: ความสำเร็จของ UAE ในการดึงดูดบุคลากรและเงินทุนในอุตสาหกรรมคริปโตและ Web3 จะเป็นแรงผลักดันให้ประเทศอื่นๆ ต้องเร่งพัฒนากฎระเบียบและสิ่งจูงใจของตนเอง เพื่อไม่ให้ตกขบวนในการแข่งขันระดับโลก
  • ความท้าทายและความโปร่งใส: แม้จะมีนโยบายที่ก้าวหน้า แต่เหตุการณ์อย่างกรณี TON ก็เป็นบทเรียนว่าความโปร่งใสและการสื่อสารที่ถูกต้องจากหน่วยงานภาครัฐเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและผู้สนใจ

สรุปแล้ว

แม้ว่าความฝันของ 'วีซ่าคริปโตโดยตรง' อาจยังไม่เป็นจริงใน UAE แต่ประเทศนี้ได้สร้างรากฐานที่แข็งแกร่งและหลากหลาย เพื่อต้อนรับและส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลและ Web3 อย่างแท้จริง ทำให้ UAE ไม่เพียงแต่เป็นศูนย์กลางทางการเงิน แต่กำลังจะก้าวขึ้นเป็น 'บ้าน' แห่งใหม่ของนวัตกรรมบล็อกเชนและผู้บุกเบิก Web3 ทั่วโลก