Strategy กับบทบาทการลงทุน Bitcoin ที่เปลี่ยนโลก

Strategy กับบทบาทการลงทุน Bitcoin ที่เปลี่ยนโลก
Strategy กับบทบาทการลงทุน Bitcoin ที่เปลี่ยนโลก

ในโลกของการเงินยุคใหม่ ไม่มีการเคลื่อนไหวของบริษัทไหนที่จะ “กล้า” และ “โดดเด่น” เท่ากับกลยุทธ์ของ Strategy (ชื่อเดิม MicroStrategy) ที่เลือกเปลี่ยนงบดุลของบริษัทให้กลายเป็น Bitcoin แทบทั้งหมด

ณ เดือนพฤษภาคม 2025 บริษัทถือ Bitcoin มากถึง 555,450 BTC หรือเกือบ 2.8% ของจำนวน Bitcoin ที่มีอยู่ทั้งหมดในโลก ซึ่งกลายเป็นการลงทุนที่ส่งแรงสะเทือนไปยังทั้งตลาดคริปโตและตลาดทุนแบบดั้งเดิม

จุดเปลี่ยน

ในช่วงก่อนที่ Spot Bitcoin ETF จะได้รับอนุมัติอย่างเป็นทางการในสหรัฐฯ นักลงทุนที่ต้องการลงทุนใน Bitcoin ยังไม่มีเครื่องมือ และยังไม่ได้รับการรับรองโดยหน่วยงานกำกับดูแล การลงทุนใน Bitcoin โดยตรงยังเต็มไปด้วยข้อจำกัด ความไม่เข้าใจ หรือความกลัวในเรื่องความปลอดภัย

Strategy จึงกลายเป็นบริษัทมหาชนรายแรก ๆ ที่ออกมาประกาศอย่างเปิดเผยว่า ได้เปลี่ยนงบดุลของตนเองให้กลายเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล โดยเฉพาะ Bitcoin ในฐานะ “เงินทุนสำรองของบริษัท” สิ่งนี้ไม่ได้สะท้อนเพียงแค่ความเชื่อมั่นของผู้บริหาร Michael Saylor เท่านั้น แต่ยังส่งสารไปยังนักลงทุนทั่วโลกว่า Bitcoin กำลังเปลี่ยนบทบาทจาก “สินทรัพย์เสี่ยง” ไปสู่ “สินทรัพย์ที่ได้รับการยอมรับในระดับองค์กร”


ผลต่อตลาด

Bitcoin ได้รับการยอมรับในระดับสถาบัน

การเข้าซื้อ BTC อย่างต่อเนื่องในปริมาณมากของ Strategy โดยประกาศต่อสาธารณะทุกครั้ง เป็นสัญญาณว่า Bitcoin ไม่ใช่แค่ “ของเล่นนักเก็งกำไร” แต่กำลังกลายเป็นสินทรัพย์ระดับสถาบันที่สามารถนำมาใช้เป็นเงินทุนสำรองในองค์กรได้จริง

แน่นอนว่าปริมาณ BTC ที่หมุนเวียนในตลาดลดลง

เมื่อบริษัทเดียวถือ BTC มากขนาดนี้ ทำให้ circulating supply ลดลง ส่งผลให้ตลาดมีแนวโน้มผันผวนมากขึ้นที่พร้อมซื้อขายในตลาดลดลง ส่งผลให้ตลาดมีแนวโน้มผันผวนมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อมีแรงซื้อหรือขายขนาดใหญ่เข้ามา 

หุ้น MSTR เชื่อมโยงกับตลาดคริปโต

นักลงทุนในตลาดทุนเริ่มมองหุ้น Strategy ($MSTR) ว่าเป็น “ตัวแทนของ Bitcoin” ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ทำให้ราคาหุ้นผันผวนตามราคาของ Bitcoin และเชื่อมโลกของหุ้นกับโลกคริปโตเข้าหากัน 


ในแง่ของนักลงทุน

การเห็นบริษัทมหาชนขนาดใหญ่ถือ BTC จำนวนมาก ส่งเสริมแนวคิด “HODL” ในหมู่นักลงทุนรายย่อย ทำให้เกิดความมั่นใจในการถือ Bitcoin ระยะยาว แม้จะมีความผันผวนระยะสั้น

กลยุทธ์ของ Strategy จุดกระแสให้บริษัทอื่นๆ ตั้งคำถามว่า "เราควรเก็บเงินไว้ในรูปแบบ Bitcoin เหมือน Strategy ไหม?" หรือ "นี่เป็นแค่ความเชื่อส่วนตัวของ CEO ไม่ใช่การบริหารความเสี่ยงที่รอบคอบ?"

นักลงทุนสถาบันเข้าถือหุ้น MSTR แทนการถือ BTC โดยตรง

ก่อนที่ Spot Bitcoin ETF จะได้รับอนุมัติ นักลงทุนสถาบันจำนวนมากยังไม่สามารถถือ BTC ได้ จึงหันมาซื้อหุ้นของ Strategy แทน ทำให้ MSTR กลายเป็น “Bitcoin Proxy” ที่ได้รับความนิยม

รายชื่อสถาบันที่ถือหุ้น MSTR ของ Strategy

ย้อนหลัง (2020–2021):

  • BlackRock, Inc. – เริ่มเข้าถือหุ้น Strategy ประมาณ 16.3% ในปี 2021
  • Capital Group – เข้าถือหุ้นจำนวนมากในช่วงแรก
  • Norges Bank – กองทุนความมั่งคั่งแห่งนอร์เวย์เริ่มถือ MSTR ตั้งแต่ระยะแรก

ในปัจจุบัน (2025):

พฤษภาคม 2025 นักลงทุนสถาบันยังคงมีบทบาทสำคัญในการถือหุ้นของ Strategy โดยมีการเปลี่ยนแปลงในรายชื่อและสัดส่วนการถือครองดังนี้

  • BlackRock, Inc. – เพิ่มการถือครองขึ้นเป็น 14.2 ล้านหุ้น หรือ 5.8% ของบริษัท (เพิ่มขึ้น 49.76% จากปลายปี 2024)
  • Norges Bank – ถือหุ้นมูลค่ารวม $524 ล้าน (Q4/2024)
  • Swiss National Bank – ถือหุ้น 466,000 หุ้น ณ กลางปี 2024
  • Vanguard Group Inc. – ถือหุ้น 16 ล้านหุ้น (~$4.7 พันล้าน) ณ ธ.ค. 2024
  • Citadel Advisors LLC – ถือหุ้น 24 ล้านหุ้น (~$7.0 พันล้าน)
  • Jane Street Group LLC – ถือหุ้น 23 ล้านหุ้น (~$6.6 พันล้าน)

การที่นักลงทุนสถาบันเหล่านี้เข้าถือหุ้นใน Strategy แสดงถึงความเชื่อมั่นในกลยุทธ์การถือครอง Bitcoin ของบริษัท และเป็นการเปิดทางให้นักลงทุนสถาบันสามารถมีส่วนร่วมในตลาดคริปโตผ่านการลงทุนในหุ้นของบริษัทที่มีการถือครอง Bitcoin อย่างมีนัยสำคัญ

บางกลุ่มชื่นชมวิสัยทัศน์ของ Michael Saylor ที่เห็นอนาคตของสินทรัพย์ดิจิทัล แต่อีกหลายกลุ่มมองว่าเป็นความเสี่ยงสูง เนื่องจาก Strategy ใช้หนี้จำนวนมากในการซื้อ Bitcoin ทั้งที่ธุรกิจซอฟต์แวร์ของบริษัทมีรายได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง

**  Strategy  ไม่ได้ใช้แค่เงินสดในมือของตัวเอง ในการซื้อ Bitcoin แต่ยัง ระดมทุนด้วยการ “ออกตราสารหนี้” มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ เพื่อนำเงินนั้นไปซื้อ Bitcoin ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้ระดมทุนผ่านการออกตราสารหนี้แบบแปลงสภาพรวมมูลค่าประมาณ $7.27 พันล้านดอลลาร์ เพื่อซื้อ Bitcoin

แม้ว่าจะมีการไถ่ถอนหนี้บางส่วน แต่บริษัทก็ยังคงใช้กลยุทธ์การระดมทุนผ่านการออกตราสารหนี้ใหม่เพื่อเพิ่มการถือครอง Bitcoin อย่างต่อเนื่อง


ทำให้นักลงทุนในตลาดอื่นต้องเข้าใจโลกคริปโตมากขึ้น

ความเชื่อมโยงระหว่างหุ้น MSTR และราคา Bitcoin ทำให้ตลาดทุนไม่สามารถเพิกเฉยต่อคริปโตได้อีกต่อไป นักลงทุนในตลาดหุ้นต้องเริ่มวิเคราะห์ราคา BTC ควบคู่ไปกับผลประกอบการทางบัญชี และตระหนักว่าความผันผวนของสินทรัพย์ดิจิทัลจะส่งผลโดยตรงต่อราคาหุ้นของบริษัท

อีกด้านหนึ่ง การที่ Strategy ถือ Bitcoin มากถึงเกือบ 3% ของทั้งหมด ทำให้เกิดผลต่อ “liquidity” ในระบบ เพราะ BTC จำนวนมากถูกนำออกจากตลาดและถูกแช่แข็งไว้ในงบดุลบริษัท นั่นหมายความว่า ในช่วงที่ตลาดมีความต้องการซื้อหรือขายสูง ราคาอาจผันผวนได้รุนแรงกว่าปกติ


มุมมองสุดท้ายบุกเบิก หรือ เดิมพัน?

คำถามที่ยังไม่มีคำตอบแน่ชัด คือ Strategy จะถูกจดจำว่าเป็น “ผู้บุกเบิกสินทรัพย์ดิจิทัลในระดับองค์กร” หรือจะกลายเป็น “ตัวอย่างของการบริหารความเสี่ยงที่ล้มเหลว” ขึ้นอยู่กับอนาคตของ Bitcoin และวิธีที่บริษัทจัดการกับภาระหนี้สินของตนเอง

  • หากราคา Bitcoin ทะยานขึ้นต่อเนื่อง Strategy อาจกลายเป็นบริษัทที่สร้างผลตอบแทนมหาศาลให้ผู้ถือหุ้น และได้รับการยอมรับว่าเห็นอนาคตเร็วกว่าใคร
  • แต่หาก Bitcoin เข้าสู่ช่วงขาลงยาวนาน และบริษัทไม่สามารถสร้างรายได้จากธุรกิจดั้งเดิมได้เพียงพอ ปัญหาหนี้สินและขาดทุนจากการถือครอง BTC อาจย้อนกลับมาเป็นระเบิดเวลาทางการเงิน